ตอนนี้ลูกผมได้ขวบกว่าๆ แล้วครับ เดินวิ่งได้คล่องแค้ว พอประมาณแล้วหละครับ
ลูกเริ่มพูดส่งเสียงดัง เรียก แม่ พ่อ ได้บ้างแล้ว แต่ยังไม่ชัดนักครับ ชี้โน่น ชี้นี่
ตลอดเวลา เมื่อพบเจอคน สัตว์ หรือ สิ่งของ ตามที่ผมได้เคยสอนเขาเอาไว้
พูดถึงการที่เด็กๆ จะเรียนรู้ภาษาของเขาได้จาก การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ
รอบตัว ที่เชื่อมโยงจากสิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้สัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง
รวมไปถึงการแสดงออก และเสียงที่เด็กนั้นได้ยิน
เด็กๆ อาจจะค้นพบว่า เสียงที่ได้ยินจะมีความหมายอย่
องค์ประกอบ ของภาษาอย่างไรบ้างนั้น
เด็กๆ จะสังเกต เลียนแบบการขยับปาก ที่เราเรียกกันว่า “ลูกชอบเล่นน้ำลาย”
ส่งเสียงพูดคุย ที่คุณพ่อคุณแม่ อาจไม่เข้าใจเขา ในตอนแรกๆ ที่เริ่มพูด
คำหนึ่งคำนั้น มีความหมายมาก จากจุดเริ่มต้นในการพูดของลูก เช่น “พ่อ แม่”
คุณพ่อคุณแม่ ต้องพูดคุยกับลูกๆ ด้วยประโยคสั้นๆ พูดช้าๆ ชัดๆ นะครับในช่วงนี้
และที่สำคัญ เด็กจะต้องเห็นปากของเรา ขณะพูดคุยด้วยครับ
เพื่อเขาจะได้ลอกเรียนแบบเสี
ด้วยการพูดคุย เชื่อมโยงกับสิ่
และต้องยื่นขวดนมให้เด็กเห็นด้
การเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ และแสดงให้เขารู้ในการเป็นผู้ฟั
เราต้องพยักหน้า และบอกว่าใช่.. หร่อ… เมื่อลูกพู
“ภาษาที่เด็กทารก ที่สื่อออกมา คุณพ่อคุณแม่ อาจจะนำขั้นตอนเหล่านี้
ไปดัดแปลงเพื่อให้ลูกได้ฝึกภาษาอังกฤษ ก็ยังได้นะครับ
คำแรก ถ้าลูกได้พูดออกมา ที่จะทำให้พ่
ก็คือ “แม่… พ่อ…” ใช่ไหมหละครับ ที่คุณๆ รอกันอยู่หนะ..