มีเด็กในต่างประเทศคนหนึ่งได้พูดไว้ว่า “ผมชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ผมเล่นได้เก่งมาก ตอนผมอายุ 14 ปี ผมเป็นผู้รักษาประตูของทีม แต่พ่อผมอยู่ไกลมากที่จะมาดูผมแข่งขัน แม่ก็ไม่เคยมาดูผมสักที การเป็นผู้รักษาประตูเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมมาก และแล้วอีก 2 ปีต่อมาผมก็เลิกเล่นเพราะรู้สึกว่าไม่เห็นจะมีดีอะไรเลย”
อะไรที่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ใหญ่เรา เราก็อยากให้มีคนมาร่วมรับรู้ เด็กๆ ก็เหมือนกันครับ เขาจะสนุกสนานเมื่อได้ทำในสิ่งที่ชอบก็เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงต่อหน้าพ่อแม่เถอะ
การร่วมรับรู้ในสิ่งที่เป็นความภูมิใจและความสำเร็จของลูก และการได้ดูลูกทำกิจกรรมที่ชอบ จะทำให้พ่อแม่เข้าใจลูกมากขึ้น ทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน แม้ว่าเขาจะทำคนเดียวก็ตาม เพียงพ่อแม่ได้ไปยืนดูลูก ก็สร้างความนับถือให้เกิดขึ้นในตัวลูกแล้วครับ
ถ้าลูกถามว่า “หนูจะทำ… ให้ดูเอามั๊ยแม่” หรือ “พ่อครับ ดูผมทำ… สิครับ” พ่อแม่ควรจะตอบไปว่า “ได้สิ” แต่อย่าพูดตอบไปว่า “เอาไว้ทีหลังนะ” จะทำให้เด็กขาดความมั่นใจ
พ่อแม่ควรแบ่งเวลาไปดูลูกทำกิจกรรมบ้าง ต้องปล่อยให้ลูกคลุกดินเปื้อนฝุ่น เพื่อจะได้เห็นถึงความพยายามของลูก เราอาจพิศวงในความคลั่งไคล้ของลูก แต่ลูกจะรู้สึกอบอุ่นและทำให้มันดีได้ทุกครั้ง เพราะดวงตาของพ่อแม่คู่นั้นที่คอยเฝ้าดูลูกนั่นเองครับ
ถ้าพ่อมาดูลูกทำกิจกรรมคนเดียวให้บอกลูกว่า…
“ถ้าแม่ได้มาดูลูกเล่นกิจกรรมในครั้งนี้ แม่ต้องภูมิใจในตัวลูกแน่นอนนะ”
Credit by : Elizabeth Hartley-Brewer / Self-Esteem for boys.